ไขคำตอบ! ขูดหินปูนบ่อย ๆ เสี่ยงฟันบาง/ฟันสึกจริงไหม ?

Share Post:

ไขคำตอบ! ขูดหินปูนบ่อย ๆ เสี่ยงฟันบาง/ฟันสึกจริงไหม ?

           “อย่าไปขูดหินปูนนะ เดี๋ยวฟันจะบางลง”
          “ฟันจะสึกหมดถ้าขูดหินปูนบ่อย ๆ”

          หากคุณเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้ จนทำให้เกิดความลังเล และกลัวการไปพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน วันนี้ Dental Life Clinic จะพาคุณมาไขข้อสงสัยอย่างละเอียดว่า การขูดหินปูนทำให้ฟันบางหรือฟันสึกได้จริงหรือไม่? พร้อมทั้งอธิบายถึงสาเหตุของฟันบาง ฟันสึกที่แท้จริง ตลอดจนวิธีดูแลสุขภาพช่องปากหลังการขูดหินปูนอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณมั่นใจ และไม่ลังเลที่จะดูแลฟันอย่างถูกวิธี พร้อมแล้วไปอ่านได้เลย!!

ขูดหินปูนคืออะไร?

          การขูดหินปูน (Scaling) เป็นกระบวนการที่ทันตแพทย์ใช้เครื่องมือพิเศษในการขจัด หินปูน หรือคราบหินปูนที่เกาะอยู่บนผิวฟัน โดยเฉพาะบริเวณคอฟันและขอบเหงือก หินปูนคือคราบจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่เป็นระยะเวลานาน เมื่อปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการแข็งตัวกลายเป็นหินปูน ซึ่งไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการแปรงฟันธรรมดา

หากขูดหินปูนบ่อย เสี่ยงฟันบาง/ฟันสึก จริงไหม?

          คำตอบคือ “ไม่จริง” การขูดหินปูน ไม่ทำให้ฟันบางลงหรือสึกลง เพราะกระบวนการขูดหินปูนใช้เพียง คลื่นความถี่สูง (Ultrasonic Scaler) เพื่อกระเทาะและสั่นสะเทือนให้หินปูนที่เกาะติดบนผิวฟันหลุดออกมา โดยไม่ได้สัมผัสกับเนื้อฟันโดยตรง

          ดังนั้น การขูดหินปูนไม่ได้มีการ “ขูด” หรือ “ขัด” เนื้อฟันตรงๆ แบบที่หลายคนเข้าใจผิด และไม่ส่งผลให้เนื้อฟันเสียหายไปแต่อย่างใด

แล้วทำไมบางคนรู้สึกว่าฟันบาง/ฟันสึกลง หลังขูดหินปูน?

          ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่า “ฟันบางลง” หรือ “ฟันสึก” หลังการขูดหินปูน แต่นั่นเกิดจากความเข้าใจผิด หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น

สาเหตุที่ 1
ก่อนหน้านี้มี หินปูนหนา เกาะบนผิวฟันจนเกิดความรู้สึกว่าฟันหนาขึ้น พอขูดออกจึงรู้สึกต่างไปจากเดิม
สาเหตุที่ 2
มีอาการเสียวฟัน หลังการขูด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาชั่วคราวจากผิวรากฟันที่ถูกเปิดออก เมื่อหินปูนที่เคลือบอยู่หลุดออกแล้ว ทำให้เสียวฟันได้ง่ายขึ้นในช่วงแรก
สาเหตุที่ 3
ฟันมีปัญหาอื่นอยู่ก่อนแล้ว เช่น รากฟันโผล่ หรือ เคลือบฟันสึก ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการขูดหินปูนโดยตรง

แล้วสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ “ฟันบาง” หรือ “ฟันสึก” เกิดจากอะไร?

          ฟันบางหรือฟันสึกไม่ได้เกิดจากการขูดหินปูนโดยตรง แต่สาเหตุที่ทำให้ฟันบางหรือฟันสึกมีหลายปัจจัย ได้แก่

1. การแปรงฟันแรงเกินไป การใช้แปรงสีฟันขนแข็งและแปรงอย่างรุนแรงจะทำให้เคลือบฟันสึกกร่อน โดยเฉพาะบริเวณคอฟันหรือรอยต่อของฟันและเหงือก

2. การกัดฟัน นอนกัดฟัน พฤติกรรมกัดฟันขณะหลับเป็นสาเหตุหลักของฟันสึก โดยเฉพาะบริเวณฟันกราม ซึ่งจะมีรอยแบนหรือฟันสั้นลง

3. การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้รสเปรี้ยว หรืออาหารหมักดอง สามารถทำให้เคลือบฟันละลายและบางลงได้

4. กรดจากโรคกรดไหลย้อน หรือการอาเจียนบ่อย กรดจากกระเพาะอาหารที่ย้อนขึ้นมาบ่อยครั้งจะทำลายเคลือบฟัน โดยเฉพาะบริเวณฟันด้านใน

5. อายุที่มากขึ้น เนื่องจากฟันจะสึกหรอลงตามการใช้งานเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น

อาการที่อาจเกิดขึ้น “หลังการขูดหินปูน”

          ถึงแม้การขูดหินปูนจะปลอดภัย แต่บางคนอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งมักจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน ได้แก่

1. เสียวฟัน เกิดจากรากฟันที่ถูกเปิดเผยหลังจากหินปูนหนาที่ปกคลุมผิวฟันหลุดออก โดยเฉพาะบริเวณที่มีเหงือกร่น

2. เลือดออกจากเหงือก เป็นอาการที่พบบ่อยหากเหงือกมีการอักเสบ หรือมีปัญหาโรคเหงือกอยู่ก่อนหน้านั้น

3. รู้สึกฟันบางลง เป็นเพียงความรู้สึกทางจิตวิทยา เนื่องจากผิวฟันที่เคยปกคลุมด้วยหินปูนถูกเปิดเผย จึงสัมผัสกับลิ้นหรืออากาศได้ชัดเจนขึ้น

4. เหงือกร่นเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นหากมีการสะสมของหินปูนหนามากจนผลักดันขอบเหงือก เมื่อขูดออก เหงือกจะหดกลับเข้าสู่ตำแหน่งปกติ แต่ไม่ใช่ผลจากการสึกของฟัน

วิธีดูแลสุขภาพฟันหลังการขูดหินปูน

         แม้การขูดหินปูนจะปลอดภัย แต่การดูแลฟันอย่างเหมาะสมหลังการขูดก็มีส่วนช่วยทำให้สุขภาพช่องปากแข็งแรงขึ้น และลดโอกาสเสียวฟัน หรือเกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ ได้ โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้

1. หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด/เย็นจัดใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันอาการเสียวฟันและระคายเคือง

2. ใช้ยาสีฟันสำหรับเสียวฟัน ช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย และเสริมแร่ธาตุให้กับฟัน

3. หลีกเลี่ยงของเปรี้ยวหรือกรดจัด อาหารประเภทมะนาว ส้ม หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลม อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

4. แปรงฟันอย่างเบามือ เลือกใช้แปรงขนนุ่ม และแปรงฟันอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการทำลายเคลือบฟันเพิ่มต่อเนื่อง

5. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ เพื่อช่วยลดการอักเสบของเหงือก และทำให้แผลหรืออาการเลือดออกหายเร็วขึ้น

ขูดหินปูนบ่อยแค่ไหนถึงจะดี?

          โดยทั่วไป ทันตแพทย์แนะนำให้ขูดหินปูน ทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อย ปีละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูนที่สะสมในแต่ละบุคคล หากมีปัญหาเรื่องสุขภาพเหงือก หรือมีแนวโน้มเกิดหินปูนง่าย อาจต้องพบทันตแพทย์บ่อยกว่านั้นเพื่อดูแลช่องปากได้อย่างเหมาะสม และป้องกันปัญหาต่าง ๆ ตามมาในภายหลัง

สรุป

          “การขูดหินปูน” ไม่ทำให้ฟันสึก/ฟันบาง เพราะเป็นการใช้เครื่องมือสั่นความถี่สูงเพื่อขจัดหินปูนเท่านั้น ซึ่งอาการเสียวฟันหรือรู้สึกฟันบางหลังขูดหินปูนเป็นอาการชั่วคราว และไม่เกี่ยวกับความเสียหายของเนื้อฟัน โดยฟันบาง/ฟันสึก มักเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น แปรงฟันแรง กรดกัดเคลือบฟัน หรือการนอนกัดฟัน ดังนั้น ควรดูแลช่องปากหลังขูดหินปูนอย่างถูกวิธี จะช่วยลดอาการเสียวฟันและทำให้ฟันแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และควรเข้ารับการขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันโรคเหงือกและปัญหาฟัน ให้ช่องปากของคุณสุขภาพดีในระยะยาว

          สำหรับใครที่อยากปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันและช่องปาก สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Dental Life Clinic ได้ตลอดนะครับ เราพร้อมให้คำแนะนำ และให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี พร้อมทั้งสุขภาพในช่องปากที่ดีครับ 🩺🥰
.
ปรึกษาเราได้ฟรี!
083-070-5955, 02-938-9178
Inbox : https://m.me/dentallifeclinic
Line : @dentallife หรือคลิก https://lin.ee/R5pISY5
แผนที่ : https://goo.gl/maps/jkHoQaHvMVEtYx4i6

Stay Connected

More Updates