พลัค vs หินปูน ต่างกันยังไง? รู้ให้ลึกก่อนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในช่องปาก
คราบบนฟันเหมือนกัน…แต่ไม่เหมือนกัน!
หลายคนเคยส่องกระจกแล้วเห็นคราบขาว ๆ หรือเหลือง ๆ เกาะอยู่ตามซอกฟัน คอฟัน หรือแนวเหงือก
บางคนคิดว่า “แปรงแรง ๆ เดี๋ยวก็หาย”
บางคนก็ปล่อยไว้ เพราะไม่เจ็บ ไม่ปวด
แต่รู้ไหมว่า…
คราบเหล่านั้นอาจเป็น “พลัค” หรืออาจพัฒนาไปเป็น “หินปูน” โดยที่คุณไม่รู้ตัว แม้ว่าสองสิ่งนี้ดูคล้ายกัน แต่ผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก ต่างกันมาก หากไม่เข้าใจตั้งแต่แรก อาจลุกลามไปสู่ปัญหาใหญ่ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ กลิ่นปากเรื้อรัง ไปจนถึงโรคปริทันต์ได้
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก พลัค vs หินปูน แบบเจาะลึกแต่เข้าใจง่าย หากอ่านจบแล้ว คุณจะรู้ว่า คราบแบบไหนยังจัดการเองได้ คราบแบบไหนต้องพบทันตแพทย์ และควรดูแลช่องปากยังไง ไม่ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
คราบพลัค คืออะไร?
คราบพลัค (Plaque) คือคราบนิ่ม ๆ ที่เกิดจากการรวมตัวของ เชื้อแบคทีเรีย เศษอาหาร และน้ำลาย
เมื่อเรากินอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลหรือแป้ง แบคทีเรียในปากจะย่อยอาหารเหล่านั้นและสร้างกรดออกมา โดยเมื่อ กรด + แบคทีเรีย + เศษอาหาร = กลายเป็น ฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวฟัน ซึ่งก็คือ “พลัค”
ลักษณะของคราบพลัค
- สีขาวขุ่น หรือใสขุ่น
- เหนียว ๆ ลื่น ๆ
- มักเกาะตามซอกฟัน ขอบเหงือก หลังฟัน
- เกิดขึ้นใหม่ได้ทุกวัน แม้เพิ่งแปรงฟันไปไม่นาน
สิ่งสำคัญคือ พลัคไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ทุกคนมีโอกาสเกิดคราบพลัคได้ตลอดเวลา แต่ปัญหาจะเกิด ก็ต่อเมื่อเราไม่กำจัดมันออก
ทำไมคราบพลัคถึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาช่องปาก?
แม้คราบพลัคจะดูนิ่ม ๆ ไม่อันตราย แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยแบคทีเรีย แบคทีเรียเหล่านี้เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ กลิ่นปาก เหงือกร่น และพัฒนาไปเป็นหินปูนในที่สุด หากปล่อยคราบพลัคทิ้งไว้ นานกว่า 24–72 ชั่วโมง แร่ธาตุจากน้ำลายจะเข้าไปสะสม ทำให้คราบนิ่ม ๆ นี้ แข็งตัวขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “หินปูน”
หินปูน คืออะไร?
หินปูน (Tartar หรือ Calculus) คือคราบพลัคที่แข็งตัวแล้ว เมื่อพลัคได้รับแร่ธาตุจากน้ำลาย จะเกิดการตกตะกอน กลายเป็นคราบแข็งที่เกาะแน่นบนผิวฟัน
ลักษณะของหินปูน
- แข็ง ตัวแน่น
- สีเหลือง น้ำตาล หรือเทา
- มักเกาะบริเวณคอฟัน หรือใต้ขอบเหงือก
- ไม่สามารถแปรงออกเองได้
ต่อให้คุณแปรงฟันแรงแค่ไหน หรือใช้ยาสีฟันสูตรพิเศษเพียงใด หินปูนก็ไม่หลุดออกได้ง่ายๆ วิธีเดียวที่เอาหินปูนออกได้ คือ การขูดหินปูนโดยทันตแพทย์
หากสรุปสั้นๆ พลัค คือคราบนิ่ม ยังป้องกันและกำจัดเองได้ แต่หินปูน คือคราบแข็ง ต้องให้ทันตแพทย์ดูแลเท่านั้น
วิธีสังเกตด้วยตัวเองว่าบนฟันของเราเป็นพลัคหรือหินปูน?
ถ้าเป็นคราบพลัค จะเป็นสีขาวขุ่น เหนียว ใช้เล็บขูดแล้วรู้สึกนิ่ม แปรงฟันสะอาดแล้วคราบลดลง ถ้าเป็นหินปูน จะเป็นลักษณะแข็ง ขรุขระ สีออกเหลืองหรือน้ำตาล มักเกาะแน่นบริเวณคอฟัน แปรงยังไงก็ไม่หลุด หากไม่แน่ใจ การให้ทันตแพทย์ตรวจคือวิธีที่ชัวร์ที่สุด
ผลเสียของการปล่อยให้มีคราบพลัคและหินปูนสะสม
หลายคนมักคิดว่า “ไม่เจ็บ ไม่ปวด คงไม่เป็นไร” แต่ความจริงคือ ปัญหาช่องปากจำนวนมาก ไม่แสดงอาการในช่วงแรก
ผลเสียจากคราบพลัคสะสม
- ฟันผุจากกรดของแบคทีเรีย
- เหงือกอักเสบ เหงือกแดง เลือดออกง่าย
- กลิ่นปากเรื้อรัง
ผลเสียจากหินปูน
- เหงือกอักเสบรุนแรง
- เหงือกร่น ฟันดูยาว
- ฟันโยก
- โรคปริทันต์ (อาจนำไปสู่การสูญเสียฟัน)
ใครบ้างที่เสี่ยงเกิดคราบพลัคและหินปูนง่าย?
แม้ทุกคนจะมีโอกาสเกิดคราบเหล่านี้ แต่กลุ่มต่อไปนี้ เสี่ยงมากเป็นพิเศษ
- คนที่แปรงฟันไม่สะอาดหรือแปรงไม่ครบทุกซี่
- คนที่ไม่ใช้ไหมขัดฟัน
- คนที่ชอบของหวาน น้ำอัดลม ชานม
- คนสูบบุหรี่
- คนจัดฟัน (มีซอกให้คราบสะสมง่าย)
- คนที่ไม่เคยขูดหินปูนเป็นเวลานาน
วิธีป้องกันที่ดีที่สุด ก่อนพลัคจะกลายเป็นหินปูน
การป้องกันง่ายกว่าการรักษาเสมอ และการดูแลช่องปากที่ถูกต้อง สามารถลดความเสี่ยงได้มาก
แปรงฟันให้ครบทุกซี่ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- เช้าและก่อนนอน
- ใช้เวลาประมาณ 2 นาที
- เน้นบริเวณขอบเหงือกและซอกฟัน
ใช้ไหมขัดฟัน หรือหัวฉีดน้ำ ทำความสะอาดซอกฟัน
แปรงฟันอย่างเดียว ไม่พอ เพราะซอกฟันคือแหล่งสะสมของคราบพลัคชั้นดี
บ้วนปากหลังอาหาร
ช่วยลดเศษอาหาร ลดน้ำตาลที่ตกค้างในช่องปาก
ตรวจฟันและขูดหินปูนสม่ำเสมอ
ขูดหินปูนทุก 6 เดือน และตรวจสุขภาพฟันปีละครั้ง ช่วยป้องกันปัญหาลุกลาม และตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
สรุป
คราบพลัค และหินปูน อาจดูคล้ายกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันมาก เพราะ พลัค เปรียบสัญญาณเตือนแรก ก่อนที่จะกลายเป็นหินปูน คือปัญหาที่ต้องจัดการจริงจัง ดังนั้น การดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงช่วยให้ฟันขาวสะอาด แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว
หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจมีอาการเหล่านี้ หรืออยากตรวจสุขภาพฟัน สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Dental Life Clinic ได้ตลอดนะครับ เราพร้อมให้คำแนะนำ และการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงครับ 🩺🥰
.
ปรึกษาเราได้ฟรี!
083-070-5955, 02-938-9178
Inbox : https://m.me/dentallifeclinic
Line : @dentallife หรือคลิก https://lin.ee/R5pISY5

