ทำวีเนียร์แล้วทำไมมีกลิ่นปาก จริงหรือ? เผย 5 สาเหตุที่หลายคนมองข้าม พร้อมวิธีดูแลไม่ให้มีกลิ่น
ในช่วงที่ผ่านมา หากใครติดตามข่าวหรือกระแสบนโซเชียล จะเห็นว่ามีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเรื่อง “ทำวีเนียร์แล้วมีกลิ่นปาก” บางคนบอกว่า ไม่จริง เพราะตัวเองทำแล้วไม่เคยมีปัญหา แต่บางคนกลับเจอปัญหากลิ่นปากรบกวนชีวิตประจำวัน จนเสียความมั่นใจ
คำถามสำคัญคือ วีเนียร์ทำให้เกิดกลิ่นปากจริงหรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่จริงทั้งหมด” และไม่ใช่ทุกคนที่ทำวีเนียร์จะมีกลิ่นปาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เกิดปัญหานี้จริง
เพราะการเกิดกลิ่นปากหลังทำวีเนียร์ มักไม่ได้เกิดจากวีเนียร์โดยตรง แต่เกิดจากรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม ทั้งในขั้นตอนการทำวีเนียร์ และการดูแลหลังทำวีเนียร์
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมบางคนทำวีเนียร์แล้วไม่มีกลิ่น แต่บางคนกลับมีกลิ่น พร้อมเจาะลึก 5 สาเหตุสำคัญ และวิธีดูแลที่ถูกต้อง เพื่อให้วีเนียร์สวยและไม่มีกลิ่นกวนใจ
วีเนียร์ (Veneer) คือ แผ่นวัสดุบาง ๆ ที่ติดบนผิวหน้าฟัน ช่วยปรับสีฟัน รูปร่างฟัน ปิดรอยแตก ฟันห่าง หรือฟันไม่สวย โดยทั่วไปวีเนียร์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรมีกลิ่น ไม่ทำให้ปากเหม็น และไม่ทำให้ฟันผุง่าย ดังนั้น ถ้าคุณมีกลิ่นปากหลังทำวีเนียร์ แสดงว่ามีปัจจัยบางอย่างผิดปกติ
แต่ก่อนจะไปดูสาเหตุของคนที่มีกลิ่นปาก ต้องเข้าใจก่อนว่า คนที่ทำวีเนียร์แล้วไม่มีกลิ่น มักมีปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน
- วีเนียร์แนบสนิท ขอบเรียบ
- ใช้วัสดุและกาวคุณภาพ
- สุขภาพเหงือกดีตั้งแต่ก่อนทำ
- ดูแลความสะอาดช่องปากดี
- ตรวจฟันสม่ำเสมอ
ในทางกลับกัน หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง กลิ่นปากอาจตามมาได้โดยไม่รู้ตัว
ทำวีเนียร์แล้วมีกลิ่นปากง่าย อาจเกิดจาก 5 สาเหตุนี้
1. วีเนียร์ปิดไม่สนิท
ช่องว่างเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น แต่แบคทีเรียเห็น สาเหตุอันดับต้น ๆ ที่พบทันตแพทย์บ่อยคือ วีเนียร์ปิดไม่แนบสนิทกับผิวฟัน แม้จะดูเรียบสวยจากภายนอก แต่หากมี ช่องว่างเล็กมาก ระดับเส้นผม ช่องนั้นจะกลายเป็นแหล่งสะสมของ เศษอาหาร คราบแบคทีเรีย คราบโปรตีนจากน้ำลาย
แบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายเศษอาหาร และปล่อยก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น เช่น ซัลเฟอร์
ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก โดย ปัญหานี้มักเกิดจาก การพิมพ์ปากไม่แม่นยำ การออกแบบขอบวีเนียร์ไม่พอดี ความเร่งรีบในขั้นตอนการติดวีเนียร์
2. กาวยึดเกาะเสื่อม
จุดซ่อนปัญหาที่เจ้าของฟันไม่รู้ตัว หลายคนไม่รู้ว่า กาวที่ใช้ยึดวีเนียร์มีอายุการใช้งาน
เมื่อเวลาผ่านไป กาวที่ยึดวีเนียร์กับฟันอาจเสื่อมสภาพเกิดการหดตัวหรือหลุดลอกบางส่วนได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือ เกิดช่องว่างใต้แผ่นวีเนียร์ ทำให้มีเศษอาหารและแบคทีเรียเล็ดรอดเข้ามาได้ หากทำความสะอาดไม่ถึง
ซึ่งกลิ่นที่เกิดจากจุดนี้ มักเป็น กลิ่นเหม็นอับ ลึก และแปรงไม่หาย ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่า “แปรงฟันไม่สะอาด” ทั้งที่ความจริงคือ กลิ่นมาจากใต้แผ่นวีเนียร์
3. เหงือกอักเสบรอบขอบวีเนียร์
เหงือกคือแหล่งกำเนิดกลิ่นที่ถูกมองข้าม เพราะบริเวณ ขอบวีเนียร์–ขอบเหงือก เป็นจุดที่ต้องการการดูแลมากกว่าฟันธรรมดา หากมีคราบสะสม เหงือกจะเริ่มบวม เกิดการอักเสบ เลือดออกง่าย และเมื่อเหงือกอักเสบ แบคทีเรียจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และเป็นแหล่งกำเนิดกลิ่นปากโดยตรง
สิ่งที่น่ากลัวคือ บางคนไม่รู้ตัวว่าเหงือกอักเสบ ไม่มีอาการปวด แต่กลิ่นเริ่มออกมาแล้ว หากปล่อยไว้นาน อาจลุกลามเป็นโรคเหงือกหรือปริทันต์ได้
4. การดูแลหลังทำไม่ถูกต้อง
วีเนียร์ต้องดูแล “มากกว่า” ฟันปกติ ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ “ทำวีเนียร์แล้วดูแลง่ายกว่าเดิม” ในความเป็นจริง วีเนียร์ต้องการการดูแลที่ละเอียดกว่า
หลายคนมักมองข้ามกับการดูแลช่องปาก เช่น แปรงฟันไม่ทั่วถึง ไม่ใช้ไหมขัดฟัน ไม่ทำความสะอาดขอบฟัน–ขอบเหงือก ไม่ใช้ Water Flosser ทำให้เศษอาหารที่ติดตามขอบวีเนียร์
แม้จะเล็กน้อย แต่หากสะสมทุกวัน ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดกลิ่นได้
5. ไม่ตรวจสุขภาพฟันเป็นเวลานาน
ปัญหาเล็ก ๆ ที่กลายเป็นกลิ่นใหญ่ หลังทำวีเนียร์ หลายคนคิดว่า “ฟันสวยแล้ว ไม่น่ามีปัญหา” จึงกลับไม่ไปตรวจฟันเป็นปี ๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว ควรตรวจสภาพวีเนียร์ ขูดหินปูน
เช็กเหงือก ตรวจฟันผุ ปัญหาเล็ก เช่น หินปูน ฟันผุใต้ขอบวีเนียร์ เหงือกเริ่มอักเสบ หากไม่ตรวจอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาเหล่านี้จะค่อย ๆ สะสมและแสดงออกมาในรูปของ “กลิ่นปาก” ในที่สุด
วิธีดูแลวีเนียร์ให้ไม่เกิดกลิ่นปาก
กลิ่นปากหลังทำวีเนียร์ ป้องกันได้ หากดูแลอย่างถูกวิธี เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้
1. แปรงฟันให้สะอาดในทุกมุม
โดยใช้แปรงขนนุ่ม แปรงบริเวณขอบเหงือกอย่างเบามือ แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
2. ใช้ไหมขัดฟัน หรือ Water Flosser ทุกวัน
โดยเน้นซอกฟันและขอบวีเนียร์ ช่วยกำจัดเศษอาหารที่แปรงเข้าไม่ถึง
3. เลี่ยงอาหารติดค้างง่าย
เช่น อาหารเหนียว ของหวานติดฟัน อาหารที่มีน้ำตาลสูง และบ้วนน้ำทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
4. ตรวจเช็กและทำความสะอาดกับทันตแพทย์
โดยปกติควรตรวจเช็กทุก 6 เดือน หรือ ตามคำแนะนำแพทย์ เพื่อเช็กขอบวีเนียร์ กาว และสุขภาพเหงือกอยู่เสมอ เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทัน
5. หากมีกลิ่นผิดปกติ อย่าปล่อยไว้
หากรู้สึกว่า มีกลิ่นเร็วผิดปกติ แปรงฟันเท่าไรกลิ่นก็ไม่หายไป รู้สึกอับในปาก ควรให้ทันตแพทย์ตรวจทันที เพราะการแก้ตั้งแต่ระยะแรก ง่ายและประหยัดกว่ามาก
สรุป
การทำวีเนียร์ ไม่ได้ทำให้คน นั้นเกิดกลิ่นปากเสมอไป เพราะสาเหตุของกลิ่น อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุที่คุณมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นวีเนียร์ปิดไม่สนิท เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น แต่เป็นจุดสะสมของแบคทีเรีย กาวยึดเกาะเสื่อมทำให้เกิดช่องว่าง ที่ทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียเล็ดรอดเข้าไปใต้แผ่นวีเนียร์ได้ หรือมีปัญหาเหงือกอักเสบรอบขอบวีเนียร์ ทำให้เป็นที่ค้างสะสมของเศษอาหาร ทำให้เหงือกบวมแดง และเกิดการอักเสบ และมีกลิ่นตามมาได้ หรือแม้แต่การที่คุณไม่ดูแลสุขภาพปากได้เหมาะสมหลังทำวีเนียร์
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากคุณเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง และดูแลอย่างถูกวิธี การทำวีเนียร์ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะสามารถสวย มั่นใจ และไม่มีกลิ่นกวนใจได้ในระยะยาว
หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจมีอาการเหล่านี้ หรืออยากตรวจสุขภาพฟัน สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Dental Life Clinic ได้ตลอดนะครับ เราพร้อมให้คำแนะนำ และการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงครับ 🩺🥰
.
ปรึกษาเราได้ฟรี!
083-070-5955, 02-938-9178
Inbox : https://m.me/dentallifeclinic
Line : @dentallife หรือคลิก https://lin.ee/R5pISY5

